วิธีติดตั้ง NFS (Network File System) บน RHEL/CentOS/Fedora and Debian/Ubuntu

linux-370x264
NFS หรือ Network File System คือ ระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อ Share Files และ Folder ระหว่างระบบ Linux กับ Unix
โดยถูกพัฒนาโดย Sun Microsystems ในปี 1980 ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงไฟล์ที่แชร์ไว้ในระบบ Network ได้

ประโยชน์ของ NFS
1. NFS อนุญาตให้คุณเข้ามาใช้ไฟล์ที่แชร์ไว้ได้
2. มีความสามารถในการแชร์ไฟล์ระหว่าง Linux กับ Unix โดยใช้ Standard Function
3. ในการใช้ NFS ไม่จำเป็นจะต้องใช้ระบบปฏิบัติการเดียวกัน
4. ช่วยในการจัดการพื้นที่เก็บข้อมุลส่วนกลาง
5. ผู่ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยไม่ต้องสนใจตำแหน่งของข้อมูล
6. ระบบจะทำการ Refresh อัตโนมัติเมื่อมีไฟล์ใหม่เข้ามา
7. version ล่าสุด support acl, pseudo root mounts
8. มี Firewalls และ Kerberos ในการจัดการความปลอดภัย

NFS เป็น Service แบบ System V-launched โดย NFS ต้องการ Package portmap และ nfs-utils

ไฟล์ที่ทำสำคัญในการ Config NFS

– /etc/exports : ตัวหลักในการ config NFS เป็นตัวกำหนด ไฟล์และโฟลเดอร์ ที่ต้องการแชร์
– /etc/fstab : ใช้ mount Directory ที่ NFS แชร์ เมื่อมีการ reboot
– /etc/sysconfig/nfs : ใช้กำหนดการทำงาน NFS

วิธีการติดตั้งและ Config NFS บน Linux Server
เราต้อง Set Computer ไว้ 2 ตัว คือ
1. NFS Server: nfsserver.example.com ด้วย IP-192.168.0.100
2. NFS Client : nfsclient.example.com ด้วย IP-192.168.0.101

วิธีการติดตั้งทั้ง NFS Server และ NFS Client
สำหรับ RHEL/CentOs/Fedora
[root@nfsserver ~]# yum install nfs-utils nfs-utils-lib
[root@nfsserver ~]# yum install portmap

สำหรับ Debian/Ubuntu
[root@nfsserver ~]# apt-get install nfs-utils nfs-utils-lib

ถัดไปให้ Start Service ทั้ง 2 เครื่อง
[root@nfsserver ~]# /etc/init.d/portmap start
[root@nfsserver ~]# /etc/init.d/nfs start
[root@nfsserver ~]# chkconfig --level 35 portmap on
[root@nfsserver ~]# chkconfig --level 35 nfs on

Config NFS Server
สร้างโฟลเดอร์ที่ต้องการแชร์ไฟล์
[root@nfsserver ~]# mkdir /nfsshare

set ให้ NFS แชร์ โฟลเดอร์ nfsshare บน Network

[root@nfsserver ~]# vi /etc/exports

/nfsshare 192.168.0.101(rw,sync,no_root_squash)

ถ้าไม่ถนัด vi ใช้ pico ก็ได้นะครับ

NFS Option
– ro : client สามารถอ่านได้อย่างเดียว
– rw : client สามารถเขียนและอ่านได้
– sync : ยืนยันการขอ Sync ข้อมูลที่แชร์
– no_subtree_check : ปิดการตรวจสอบ subtree
– no_root_squash : อนุญาตให้ root สามารถเชื่อมต่อได้

Config NFS Client
ตรวจสอบการแชร์ของ NFS Server

[root@nfsclient ~]# showmount -e 192.168.0.100

Export list for 192.168.0.100:
/nfsshare 192.168.0.101

Mount เพื่อเชื่อมต่อ Directory ที่ Server แชร์

[root@nfsclient ~]# mount -t nfs 192.168.0.100:/nfsshare /mnt/nfsshare

ตรวจสอบการ Mount

[root@nfsclient ~]# mount | grep nfs

sunrpc on /var/lib/nfs/rpc_pipefs type rpc_pipefs (rw)
nfsd on /proc/fs/nfsd type nfsd (rw)
192.168.0.100:/nfsshare on /mnt type nfs (rw,addr=192.168.0.100)

ทีนี้เรามา Config Client ให้ Mount อัตโนมัติตอน Reboot โดยเข้าไปแก้ไขไฟล์ /etc/fstab

[root@nfsclient ~]# vi /etc/fstab

เพิ่มข้อความนี้เข้าไป
192.168.0.100:/nfsshare /mnt nfs defauls 0 0

ทดสอบการทำงาน
ฝั่ง Server
[root@nfsserver ~]# cat > /nfsshare/nfstest.txt

ฝั่ง Client
[root@nfsclient]# ls /mnt/nfsshare
total 4
-rw-r--r-- 1 root root 61 Sep 21 21:44 nfstest.txt

root@nfsclient ~]# cat /mnt/nfsshare/nfstest.txt
This is a test file to test the working of NFS server setup.

ออกจาก NFS Mount

root@nfsclient ~]# umount /mnt/nfsshare

ขอให้สนุกกับการใช้ Linux ครับ
ที่มา : http://www.tecmint.com/how-to-setup-nfs-server-in-linux/

This entry was posted in การติดตั้ง. Bookmark the permalink.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *